ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการในประเทศไทยมีความต้องการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้แผนการเปิดประเทศอีกครั้ง บริษัทสตาร์ทอัพที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมบริการสำหรับโรงแรมบูทีคและร้านอาหารแบบครบวงจร มีความต้องการให้โรงแรมและร้านอาหารท้องถิ่นมีความได้เปรียบในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีการแข่งขันสูงในเมืองไทย หลังการปิดประเทศเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความท้าทายต่อธุรกิจการบริการอย่างมากในวงกว้าง
WaiThai Hospitality เปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเปิดใหม่หรือกลับมาเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งให้สามารถทำรายได้ได้ในระยะยาวและมีความยั่งยืน ก่อตั้งโดยผู้บริหารโรงแรมมากประสบการณ์ Thomas Pfordte ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในเอเชียตะวันออกกลางและยุโรป ยาวนานกว่า 25 ปี
“แนวคิดในการเปิดบริษัทเกิดขึ้นก่อนการระบาดใหญ่ และได้รับการพัฒนาอย่างต่อในช่วงล็อกดาวน์ที่ยาวนาน ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด Jantana Tanprasit และที่ปรึกษาอาวุโส Bob James ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการที่มีประสบการณ์ระดับนานาชาติ” Pfordte กล่าวในข่าว TTG Asia
Pfordte อธิบายว่า “ภาคธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศไทยเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดในปี 2019 ซึ่งสภาพแวดล้อมทางธุรกิจดังกล่าวมักทำให้ผู้ประกอบการไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของตนเองอย่างที่ควรเป็น ตัวอย่างเช่น จำนวนพนักงานและประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนความยั่งยืนและขั้นตอนการปฏิบัติงานอื่นๆ ซึ่งมักไม่เคยถูกตั้งคำถามที่เกี่ยวโยงการรักษาผลกำไรให้คงที่แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันเจ้าของโรงแรมและภัตตาคารควรที่จะต้องมองรายละเอียดเหล่านี้และท้าทายค่าใช้จ่าย รวมถึงวิธีดำเนินการต่างๆ ซึ่งประเด็นสำคัญไม่ใช่แค่การลดกำลังคน
แต่เป็นการพิจารณาโซลูชันที่ชาญฉลาดโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของลูกค้า”
แน่นอนว่าการดำเนินงานโรงแรมหรือร้านอาหารในยุคหลังโควิดจะมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารจะถูกตัดสินมากขึ้นในเรื่องของการบริการมากกว่าในเรื่องของราคา ในขณะที่หนึ่งในความท้าทายเร่งด่วนที่สุดที่ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กหลายแห่งในไทยต้องเผชิญคือปัญหาความต้องการของกระแสเงินสดซึ่งลดลงอย่างมากในช่วงเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่ผู้บริหารหลายคนมองว่าโซลูชั่นหลักคือการปรับลดเงินเดือน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีต้นทุนสูงที่สุดในธุรกิจการบริการ
แต่ WaiThai Hospitality กลับมองว่า การวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการผลิตและกำลังคน รวมถึงการออกแบบเมนูหรือบริการใหม่ๆ เป็นโซลูชั่นที่ผู้บริหารโรงแรงและร้านอาหารทุกขนาดควรพิจารณา
“ประเทศไทยมีผลิตผลทางการเกษตรที่ดีที่สุดในโลก ทำไมร้านอาหารในไทยต้องมองหาวัตถุดิบจากอีกฟากหนึ่งของโลก? ทำไมต้องใช้น้ำแร่นำเข้าซึ่งมีราคาขายสูงเกินจริงไปมาก ในเมื่อน้ำเปล่าและน้ำอัดลม ผลิตและบรรจุขวดจากแหล่งผลิตในประเทศไทย น้ำแร่ก็น่าจะทำได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการขนส่งลงไปเยอะมาก ในขณะเดียวกันสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้าได้” Pfordte กล่าว
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กเพื่อการเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพร่วมกัน ทั้งนี้ หลังการเปิดประเทศ Pfordte วางแผนที่จะขยายบริษัทไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งเขามองว่าเป็น “โอกาสที่ยิ่งใหญ่” ในการส่งเสริมแนวทางการประกอบธุรกิจโรงแรมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ธุรกิจในประเทศไทย
ขอบคุณที่มา: https://www.ttgasia.com/
